วันพฤหัสบดีที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2562

นวัตกรรม หน่วยการเรียนรู้ “ ดื่มนมดีมีประโยชน์ ”


บทเรียนสำเร็จรูป
หน่วยการเรียนรู้ ดื่มนมดีมีประโยชน์ ชั้นอนุบาลปีที่ 1
สาระที่ควรเรียนรู้เรื่องราวเกี่ยวกับสิ่งต่างๆรอบตัวเด็ก

จัดทำโดย

นางสาวอัมราพร  คำเขื่อน
นักศึกษาภาคปกติ  ชั้นปีที่ 2  ห้อง 3
รหัสนักศึกษา  61181860315  สาขาวิชาการศึกษาปฐมวัย ( ค.บ.5 ปี )

เสนอ

อาจารย์ วสันต์  แปงจิตต์
คณะครุศาสตร์  มหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง
สื่อการสอนนี้เป็นส่วนหนึ่งของวิชา  นวัตกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศ
รหัสวิชา  1032701-
ภาคเรียนที่ 1  ปีการศึกษา 2562


บทนำ

บทเรียนหน่วยการเรียนรู้ ดื่มนมดีมีประโยชน์  ในสาระที่ควรเรียนรู้เรื่องราวเกี่ยวกับสิ่งต่างๆรอบตัวเด็ก สำหรับใช้ในการสอนนักเรียนชั้นอนุบาล 1 เกี่ยวกับเรื่องนม  โดยจะแบ่งออกเป็น ดังนี้
เรื่องที่ 1 แหล่งที่มาของนม
เรื่องที่ 2 ประเภทของนม
เรื่องที่ 3 ภาชนะบรรจุนม
เรื่องที่ 4 ประโยชน์และโทษของนม
เนื่องจากนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่  1  หลายคนไม่ชอบดื่มนม  เพราะคิดว่านมดื่มแล้วไม่อร่อย  พอถึงเวลาดื่มนมเด็กจะเดินหนี  บางคนจะไม่ยอมดูดนมจากหลอด  บางคนจะกัดหลอดเล่น  บางคนก็จะนั่งเฉย ๆ หรือเจาะนมแล้วจะเอานมไปทิ้งเป็นประจํา  หรืออีกสาเหตุเพราะปัจจุบันเครื่องดื่มมีหลากหลายประเภทที่นิยมมาก  เช่น  น้ำอัดลมหลากสี  น้ำผลไม้  ชาเขียว  และน้ำที่แต่งรสชาติ กลิ่นและสีให้แปลกใหม่  ซึ่งหาซื้อได้ง่ายตามร้านสะดวกซื้อ และเด็กมักที่จะเลือกหยิบได้ตามความต้องการ  อยากรู้  อยากลองชิม  จนติดใจกลายเป็นเครื่องดื่มแทนน้ำเปล่า ทำให้เด็กเริ่มติดรสหวาน และกินบ่อยเป็นประจำจนกลายเป็นเด็กอ้วนได้ง่าย พ่อ แม่ หรือผู้ปกครองคงไม่สามารถปิดกั้นไม่ให้เด็กเลือกดื่มเครื่องดื่มเหล่านี้ได้เช่นกัน
ดังนั้นผู้จัดทำได้จัดทำขึ้นเพื่อใช้ในการสอนนักเรียนให้รู้จักการดื่มนมให้มากยิ่งขึ้น  และจะได้ไม่เกิดอันตรายต่อร่างกายของเด็กอีกด้วย


อัมราพร  คำเขื่อน
        ผู้จัดทำ



คำชี้แจงบทเรียน

บทเรียนหน่วยการเรียนรู้ ดื่มนมดีมีประโยชน์  ในสาระที่ควรเรียนรู้เรื่องราวเกี่ยวกับสิ่งต่างๆรอบตัวเด็ก สำหรับใช้ในการสอนนักเรียนชั้นอนุบาล 1 เกี่ยวกับเรื่องนม เพื่อใช้ในการสอนนักเรียนให้รู้จักการดื่มนมให้มากยิ่งขึ้น  และจะได้ไม่เกิดอันตรายต่อร่างกายของเด็ก  โดยมีกระบวนการดังนี้
1.  ทำแบบทดสอบก่อนเรียน
2.  ศึกษาหาความรู้จากเนื้อหาบทเรียน ซึ่งประกอบไปด้วย
เรื่องที่ 1 แหล่งที่มาของนม
เรื่องที่ 2 ประเภทของนม
เรื่องที่ 3 ภาชนะบรรจุนม
เรื่องที่ 4 ประโยชน์และโทษของนม
3.  ทำแบบทดสอบหลังเรียน


วัตถุประสงค์ของบทเรียน

  1. นักเรียนทราบถึงแหล่งที่มาของนม
  2. นักเรียนสามารถบอกชนิดของนมได้
  3. นักเรียนทราบถึงประโยชน์และโทษของนม
  4. ส่งเสริมพัฒนาการของเด็กทั้งด้านร่างกาย อารมณ์-จิตใจ สังคม และสติปัญญา


แบบทดสอบก่อนเรียน



เรื่องที่ 1 แหล่งที่มาของนม
นม หรือ น้ำนม หมายถึงของเหลวสีขาวที่ประกอบด้วยสารอาหารที่ออกมาจากเต้านมของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม นมจะประกอบไปด้วยสารอาหารหลักที่จำเป็นสำหรับเด็กหรือสัตว์เกิดใหม่ ซึ่งนมสามารถนำไปสร้างผลิตภัณฑ์อื่นได้แก่ ครีม เนย โยเกิร์ต ไอศกรีม ชีส นอกจากนี้นมยังสามารถหมายถึงเครื่องดื่มอื่นที่นำมาใช้ทดแทนนมได้ เช่น 
นมจากพืช คือ นมถั่วเหลือง นมถั่วเหลืองงาดำ นมข้าว นมข้าวโพด นมอัลมอนด์ เป็นต้น

นมจากสัตว์ คือ สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ที่ให้นม อาทิ วัว มนุษย์ แพะ ควาย แกะ ม้า ลา อูฐ  ฯลฯ โดยนมจากม้าและลาเป็นนมที่มีไขมันต่ำ ในขณะที่นมจากแมวน้ำจะมีไขมันสูงถึง 50%  มีบางคนที่ไม่มีน้ำย่อยแลคโตส จะไม่สามารถดื่มนมวัวได้ ก็จะหันมาดื่มนมสัตว์ชนิดอื่นแทน เช่น นมแพะ
กิจกรรม
หน่วย นม เรื่อง แหล่งที่มาของนม
  • เกมจับคู่ภาพแหล่งที่มาของนม





เรื่องที่ 2 ประเภทของนม

กิจกรรม
หน่วย นม เรื่อง ประเภทของนม
  • ให้นักเรียนลองชิมและแยกประเภทนมที่ครูได้เตรียมมา อีกทั้งลองนำจำนวนนมทั้งหมดแล้วมาจำแนกออก


กิจกรรม
หน่วย นม เรื่อง ภาชนะบรรจุนม
  •           ให้นักเรียนต่อภาพภาชนะบรรจุนมทั้งแบบกล่อง ขวดพลาสติก ขวดแก้ว และถุงให้ถูกต้อง

ประโยชน์ของนม
นม เป็นอาหารที่ยอมรับกันว่ามีคุณค่าทางโภชนาการสูง ครบถ้วนด้วยสารอาหารหลัก 5 หมู่ นมมีโปรตีนที่ประกอบด้วยกรดอมิโนครบถ้วนทุกชนิด มีไขมันที่เรียกว่า มันเนย ให้พลังงานสูง คาร์โบไฮเดรตในนม คือ น้ำตาลแล็กโทส (Lactose ให้พลังงานในอัตรา 1 กรัม ต่อ 4 แคลอรี นมอุดมด้วยเกลือแร่หลายชนิด โดยเฉพาะแคลเซียมและฟอสฟอรัส ที่จำเป็นต่อการสร้างกระดูกและฟัน ทั้งยังมีวิตามินต่าง ๆ ครบถ้วน จึงได้รวบรวมคุณประโยชน์ของการดื่มนมว่าคุณค่าสารอาหารที่กล่าวมาข้างต้นมีประโยชน์กับร่างกายเรา ดังนี้
วิธีการดื่มนมอย่างถูกวิธี
การดื่มนมทุกวัน ย่อมทำให้สุขภาพร่างกายดี และการดื่มนมนั้น หากไม่เลือกเวลาดื่มอาจจะไม่ได้ประโยชน์อย่างที่กล่าวไว้เบื้องต้นก็เป็นได้ มาดูช่วงเวลาที่เหมาะสมในการดื่มนมกันดีกว่าเพื่อให้ร่างกายของเรานั้นได้ซึมซับกับของที่มีประโยชน์มากที่สุด
05.00 น.- 07.00 น. กระตุ้นลำไส้ใหญ่ ช่วงเช้าเป็นช่วงเวลาที่ลำไส้ใหญ่ของเรานั้นมีการทำงานและเคลื่อนไหวมากที่สุด หากเราได้ดื่มนมสด หรือนมเปรี้ยวเข้าไปในเวลานั้น จุลินทรีย์จะเข้าไปทำหน้าที่เคลือบลำไส้ใหญ่ ให้มีการไหลลื่นสิ่งของที่เกาะลำไส้ของเราไหลลงสู่ทวารหนัก และจะทำให้ร่างกายของเรานั้นไม่เก็บของเสียไว้ในร่างกาย
07.00 น.- 09.00 น. กระตุ้นการทำงานของกระเพาะ ช่วงเวลานี้เป็นช่วงที่ร่างกายของเราต้องการพลังงานมากที่สุด นอกจากต้องการอาหารมื้อเช้าอย่างมากแล้ว หากเราได้ดื่มนมเข้าไปจะทำให้ร่างกายของเรานั้นสดชื่นมากกว่าที่เคยเป็น เพราะอาหารจะเป็นตัวช่วยดูดซับน้ำนมที่เราดื่มเข้าไปในช่วงเช้าส่งสารอาหารเข้าไปเลี้ยงสมองทำให้เรารู้สึกปลอดโปร่งในทุกๆ วัน
09.00 น.- 12.00 น. กระตุ้นการทำงานสมอง ช่วงเวลาของอาหารมื้อเช้าได้หมดลงไป และร่างกายต้องการพลังงานเพิ่มเติมในช่วงที่ 2 หากเรารับประทานนมเข้าไป ร่างกายจะตอบสนองในด้านความจำ การเรียนรู้เพิ่มขึ้น รวมไปถึงการทำงานในวันนั้นๆ ด้วยเช่นกัน
12.00 น. 15.00 น. กระตุ้นการทำงานของลำไส้เล็ก การกระตุ้นลำไส้เล็ก เหมาะสำหรับท่านที่ชอบทานนมที่มีไขมันต่ำ 0 เปอร์เซ็นต์
กิจกรรม
หน่วย นม เรื่อง ประโยชน์และโทษของนม
  • ให้นักเรียนชมวีดิโอนิทานเรื่อง น้องเป็ดอินดี้ ไม่ชอบดื่มนม




แบบทดสอบหลังเรียน




แบบประเมินครูผู้สอน
ข้อเสนอแนะอื่น ๆ ..............................................................................................................................................................................





นิทานเรื่อง "หมาป่ากับลูกแพะเจ็ดตัว"

นิทานเรื่อง "หมาป่ากับลูกแพะเจ็ดตัว"
จัดทำโดย
นางสาวอัมราพร คำเขื่อน 61181860315
นายวิทวัส วงค์ขัดนนท์ 61181860337


หน้า 1.
แม่แพะกับลูกๆ เจ็ดตัวอาศัยอยู่ในบ้านที่แข็งแรงและปลอดภัย วันหนึ่งแม่แพะต้องออกไปนอกบ้าน จึงสั่งลูกๆ ว่า ห้ามเปิดประตูให้ใครเข้ามานะจ๊ะ โดยเฉพาะหมาป่าซึ่งมีเสียงแหบแห้ง  และมีเท้าสีดำลูกแพะทั้งเจ็ดรับคำ  แม่แพะจึงออกจากบ้านไป

หน้า 2.
หมาป่าซึ่งแอบดูอยู่เห็นดังนั้นก็มาเคาะประตู พลางพูดว่า "ลูกจ๋า นี่แม่เองจ้ะ เปิดประตูให้แม่หน่อยสิจ๊ะ" ลูกแพะได้ยินเสียงก็รู้ว่าเป็นหมาป่าจึงตอบว่า "แม่ของพวกเราไม่ได้มีเสียงแหบแห้งอย่างนี้ เจ้าต้องเป็นหมาป่าแน่ๆ พวกเราไม่เปิดประตูให้หรอก"

หน้า 3.
หมาป่าจึงไปดื่มน้ำจากบ่อใกล้ๆ จนเสียงใสขึ้น แล้วกลับมาหาลูกแพะ คราวนี้หมาป่า
ดัดเสียงและพูดอย่างอ่อนหวานว่า "ลูกจ๋า แม่กลับมาแล้วจ้ะ เปิดประตูให้แม่หน่อยสิจ๊ะ"

หน้า 4.
ลูกแพะก้มลงมองลอดใต้ประตูเห็นเท้าสีดำก็รู้ทันทีว่าเป็นหมาป่า จึงตอบไปว่า
"แม่ของพวกเราไม่ได้มีเท้าสีดำปิ๊ดปี๋อย่างนี้ เจ้าต้องเป็นหมาป่าแน่ๆ พวกเราไม่เปิดประตูให้หรอก"

หน้า 5.
หมาป่าไม่ละความพยายาม หาแป้งโรยเท้าจนเป็นสีขาว แล้วมาเคาะประตูอีกครั้ง ลูกแพะมองลอดใต้ประตูเห็นเท้าสีขาวจึงยอมเปิดให้ ทันใดนั้น หมาป่าก็กระโจนเข้าไล่จับลูกแพะ
ใส่กระสอบทีละตัว มีเพียงลูกแพะตัวที่เจ็ดที่หนีไปซ่อนตัวทัน

หน้า 6.
ลูกแพะตัวที่เจ็ดรอจนแม่กลับมา จึงออกจากที่ซ่อนแล้วเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง เมื่อแม่แพะทราบเรื่อง ก็รีบพาลูกแพะออกตามหาหมาป่าด้วยกัน

หน้า 7.
แม่แพะพบหมาป่านอนหลับ โดยมีกระสอบวางอยู่ข้างๆ จึงแก้เชือกและช่วยลูกทั้งหกออกมา แล้วให้ลูกๆขนก้อนหินใส่กระสอบ หลังจากนั้นแม่แพะก็นำปลายเชือกข้างหนึ่งมาผูกขาของหมาป่า

เมื่อหมาป่าตื่นนอนก็รู้สึกกระหายน้ำจึงเดินไปที่ลำธาร แต่เพราะมีเชือกผูกขาไว้ ทำให้เดินไม่ถนัดพลัดตกน้ำไปพร้อมกระสอบหิน

หน้า 8.
นับจากนั้น ลูกแพะทั้งเจ็ดก็ระมัดระวังมากขึ้น ไม่เปิดประตูให้ใครง่ายๆ แล้วแม่แพะกับลูกแพะก็อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข โดยไม่มีหมาป่ามารบกวนอีก



  • วิดีโอนิทาน